วิจัยเลือดจระเข้เพื่อผู้ป่วยเบาหวาน

วารสารวิจัยและนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรมไทย ปีที่ 1 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม-สิงหาคม 2553 ได้ตีพิมพ์บทความงานวิจัยเรื่อง “การตรวจหาไอจีเอฟ-วัน ในฮีโมไลเสทจระเข้ เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพของผู้ป่วยโรคเบาหวาน”

บทความงานวิจัยเลือดจระเข้เพื่อผู้ป่วยเบาหวาน

ไอจีเอฟ-วัน (IGF-1) เป็นสารที่มีโครงสร้างทางโมเลกุลคล้ายอินซูลิน พบในน้ำเลือดและของเหลวต่างๆ ในร่างกาย

ปัจจุบันมีการใช้ประโยชน์เลือดจระเข้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเลือดจระเข้แห้งแคปซูล เพื่อทดสอบสมมุติฐานว่าในส่วนของน้ำเลือดจระเข้น่าจะมี IGF-1 หรือสารที่คล้ายกัน จึงได้ตรวจหา IGF-1 ในน้ำเลือดของจระเข้พันธุ์ไทยที่ได้จากการเพาะเลี้ยง อายุ 2-5 ปี พบว่าปริมาณฮีโมไลเสท IGF-1 ในเพศผู้ (n=13) เท่ากับ 64.51±5.42 ng/ml และเพศเมีย (n=10) เท่ากับ 70.92±4.18 ng/ml ในฮีโมไลเสทสดและฮีโมไลเสทแห้งเท่ากับ 67.28±4.79 ng/ml และ 68.24±5.13 ng/ml ตามลำดับ ค่าดังกล่าวไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ (p>0.05) แสดงให้เห็นว่าเพศ และกระบวนการทำแห้งแบบเยือกแข็ง ไม่มีผลต่อปริมาณ IGF-1 ในฮีโมไลเสทจระเข้ การศึกษานี้จะมีประโยชน์ต่อการพัฒนาเลือดจระเข้เป็นผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพ

บทความงานวิจัยเลือดจระเข้เพื่อผู้ป่วยเบาหวาน

โรคเบาหวาน (Diabetes mellitus) เป็นภาวะที่ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลที่ได้จากการรับประทานอาหารไปใช้ให้เกิดพลังงานได้อย่างเต็มที่ สาเหตุจากความผิดปกติในการทำงานของฮอร์โมน ซึ่งผลิตจากตับอ่อน เมื่อเกิดการทำงานของอินซูลินที่ผิดปกติทำให้การลดระดับน้ำตาลในเลือดเสียไป ส่งผลให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง และพบน้ำตาลถูกขับออกมาทางปัสสาวะได้ จัดเป็นโรคที่หายขาดได้ยาก

โรคแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นมักเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตที่พบบ่อย ดังนั้นหากผู้ใดเป็นโรคเบาหวานแล้วสิ่งสำคัญที่สุด คือ การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและการปกป้องการเกิดภาวะแทรกซ้อน

ไอจีเอฟ-วัน เป็นสารฮอร์โมนที่มีโครงสร้างทางโมเลกุลคล้ายกับอินซูลิน มีการสังเคราะห์ขึ้นภายในตับและเนื้อเยื่ออื่นๆ โดยการกระตุ้นของฮอร์โมนการเจริญเติบโต (Growth hormone) พบได้ในน้ำเลือดและของเหลวต่างๆ ในร่างกาย เช่น น้ำปัสสาวะและน้ำลาย IGF-1 มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่ การต่อต้านการตายของเซลล์ การกระตุ้นและควบคุมการเจริญเติบโตของเซลล์ การแบ่งเซลล์และกระบวนการเมแทบอลิซึมของกลูโคส ไขมันและโปรตีน นอกจากนี้ยังมีบทบาทในการควบคุมการทำงานของอินซูลินอีกด้วย ในปัจจุบันได้มีการศึกษา IGF-1 อย่างกว้างขวาง

และนำมาใช้ในการบำบัดกับโรคหลายภาวะด้วยกัน การวัดปริมาณหรือระดับของ IGF-1 มีความสำคัญในการประเมินความผิดปกติของฮอร์โมนการเจริญเติบโต และเป็นปัจจัยสำคัญในการทำนายโรคที่เกี่ยวกับระบบต่างๆ ในร่างกายเช่น ในเด็กและวัยรุ่น ระดับของฮีโมไลเสท IGF-1 ใช้เป็นตัววินิจฉัยและควบคุมการเกี่ยวกับโรค เช่น อะโครเมกาลี(Acromegaly) และภาวะขาดแคลนฮอร์โมนการเจริญเติบโต ฯลฯ [1-6]

จระเข้เป็นสัตว์สมุนไพรที่สำคัญ จึงมีผู้บริโภคนิยมใช้เลือดของจระเข้เป็นอาหารเสริม และเครื่องยาสัตววัตถุเลือดจระเข้เป็นผลผลิตที่เหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมจระเข้เพื่อสนับสนุนให้เกิดการใช้ประโยชน์และเพิ่มมูลค่าของผลผลิตที่ได้จากจระเข้ ในปัจจุบันได้มีการแปรรูปเลือดจระเข้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเลือดจระเข้แห้งแคปซูล[7-11] เกิดสมมุติฐานว่าในส่วนของน้ำเลือดจระเข้น่าจะมี IGF-1 หรือสารที่คล้ายกัน ซึ่งออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนอินซูลิน และอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลดลงของระดับน้ำตาลในเลือดและการสมานบาดแผลที่ดีขึ้น

เพื่อเป็นการต่อยอดงานวิจัย การสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์จากเลือดจระเข้ ที่ได้จากอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงจระเข้ในประเทศไทย และเป็นแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพในอนาคต ตลอดจนลดการนำเข้ายาและอาหารสุขภาพจากต่างประเทศ ดังนั้นคณะผู้วิจัยจึงได้ตรวจหาสาร IGF-1 ในฮีโมไลเสทจระเข้ เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพ

สรุปงานวิจัยเลือดจระเข้เพื่อผู้ป่วยเบาหวาน

ในเลือดจระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทยมีสารไอจีเอฟ-วัน (IGF-1) อยู่ซึ่งปัจจัยเพศและกระบวนการทำแห้งแบบเยือกแข็ง (Freeze drying) ไม่มีผลต่อของสารปริมาณ IGF-1 ในฮีโมไลเสทของจระเข้ การศึกษานี้จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเลือดจระเข้เป็นผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพต่อไป

หมายเหตุ: ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปแล้วแต่บุคคล