เมื่อร่างกายขาดธาตุเหล็ก

ธาตุเหล็ก นับเป็นสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญต่อร่างกายของคนเราได้เป็นอย่างมาก และยังเป็นสารอาหารชนิดหนึ่งที่ร่างกายจำเป็นต้องการได้รับไม่แพ้ไปกว่าสารอาหารชนิดอื่นๆ เนื่องจากธาตุเหล็กมีหน้าที่ช่วยในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่จะนำออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ และเมื่อร่างกายเราขาดธาตุเหล็กอาจก่อให้เกิดโรคต่างๆตามมา ดังนี้ก่อให้เกิดโรคอะไรได้บ้างโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก เด็กมีพัฒนาการเจริญเติบโตช้า มีร่างกายอ่อนเพลีย ผิวพรรณดูไม่สดใส ผิวซีด

ธาตุเหล็กสำคัญอย่างไร

ธาตุเหล็ก คือ สารอาหารที่มีส่วนสำคัญในการผลิตเฮโมโกลบิน ไมโอโกลบิน และเอนไซม์บางชนิด รวมทั้งยังเป็นสารที่มีความจำเป็นต่อกระบวนการเผาผลาญวิตามินบี โดยเฉพาะวิตามินซี โคบอลต์ แมงกานีส และทองแดง ซึ่งเป็นสารที่มีความสำคัญต่อการดูดซึมของธาตุเหล็ก แต่ทั้งนี้วิตามินอีและสังกะสีที่มีอยู่ในร่างกายในปริมาณมากนั้นจะคอยขัดขวางการดูดซึมของธาตุเหล็กเสียเอง ส่วนธาตุเหล็กที่เรารับประทานเข้าไปก็มักจะเกิดการดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้เพียงประมาณ 8% เท่านั้น ธาตุเหล็ก นับเป็นสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญต่อร่างกายของคนเราได้เป็นอย่างมาก และยังเป็นสารอาหารชนิดหนึ่งที่ร่างกายจำเป็นต้องการได้รับไม่แพ้ไปกว่าสารอาหารชนิดอื่นๆ เนื่องจากธาตุเหล็กมีหน้าที่ช่วยในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่จะนำออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ยังช่วยบำรุงและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย อาทิเช่น ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกาย ช่วยป้องกันอาการอ่อนเพลียของร่างกาย ช่วยเสริมความต้านทานต่อการเจ็บป่วย ช่วยป้องกันและรักษาภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก ช่วยทำให้สีผิวพรรณดูเรียบเนียน

“ผัก” ช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้!?

“ผัก” ช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้!?                ผู้ป่วยเบาหวานหลายคนเมื่อป่วยแล้วอาจจะกังวลกับอาหารที่ทานกันมาก อย่างที่ทราบกันดีว่าควรหลีกเลี่ยงอาหารหวานๆ ผู้ป่วยเบาหวานจำเป็นต้องเรียนรู้ในการปรับการรับประทานอาหารให้เหมาะสม “ผัก”จึงเป็นตัวช่วย อีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งหาทานง่าย ราคาย่อมเยา และน่าทดลองทานค่ะ “ผัก”ใบเขียวทุกชนิด เช่น ผักกาด ผักคะน้า ถั่วฝักยาว ผักบุ้ง ถั่วงอก เป็นต้น มีเส้นใยอาหาร หรือ กากใยอาหาร ที่เรียกว่า ไฟเบอร์ ซึ่งช่วยให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลช้าลง ไฟเบอร์ไม่เพียงแต่ช่วยควบคุมเบาหวาน

เม็ดเลือดแดงลดลงเกิดจากอะไร?

หลายปัจจัยส่งผลให้เม็ดเลือดแดงในเลือดน้อยลง ดังนี้การขาดสารอาหาร เป็นผลมาจากการรับประทานอาหารที่ได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน โดยเฉพาะธาตุเหล็ก วิตามินบี 12 หรือกรดโฟลิก ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่จําเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง การขาดธาตุเหล็กเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยทั่วไปในภาวะโลหิตจางฮอร์โมน ภายในเลือดจะมีฮอร์โมนที่ชื่อว่า อิริโธรโพอิติน (Erythropoietin) ที่ผลิตได้จากไต มีหน้าที่ในการกระตุ้นไขกระดูกในการสร้างเม็ดเลือดแดง แต่เมื่อร่างกายมีฮอร์โมนชนิดนี้ต่ำกว่าปกติจะส่งผลให้เกิดภาวะเลือดจางได้ภาวะโรคเรื้อรัง โรคเรื้อรังหรือการรักษาโรคเรื้อรังบางโรคจะส่งผลกระทบต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง โดยการทำลายไขกระดูก เช่น โรคมะเร็งบางชนิด การติดเชื้อ HIV โรคไตวายเรื้อรัง หรือโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์การตั้งครรภ์ ภาวะโลหิตจางสามารถเกิดขึ้นได้กับหญิงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในช่วงอายุครรภ์ 6 เดือนแรก เนื่องจากการขาดสารอาหารประเภทธาตุเหล็กและกรดโฟลิก รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในเลือดโรคเกี่ยวกับไขกระดูก ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคที่เกี่ยวข้องกับไขกระดูก เช่น ไขกระดูกฝ่อ มะเร็งในไขกระดูก หรือการติดเชื้อในไขกระดูก จะส่งผลต่อการสร้างเม็ดเลือดแดงเช่นกัน เนื่องจากไขกระดูกมีหน้าที่ในการสร้างเม็ดเลือดแดง เกร็ดเลือด และเม็ดเลือดขาว เมื่อไขกระดูกไม่สามารถสร้างเซลล์เม็ดเลือดได้ จึงทำให้ปริมาณเม็ดเลือดแดงในเลือดลดน้อยลง

เลือดจระเข้กับโรคสะเก็ดเงิน

เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย เสริมสร้างระบบเลือดให้ดีขึ้น ช่วยทำให้แผลแห้งไวขึ้น ปัจจุบันยังไม่มีวิธีใดที่จะสามารถป้องกันโรคสะเก็ดเงินได้อย่างชัดเจน แต่การเรียนรู้สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคสะเก็ดเงินก็ถือว่าเป็นวิธีป้องกันรูปแบบหนึ่ง เพราะเมื่อเข้าใจที่มาของการเกิดโรค ย่อมช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคสะเก็ดเงินได้ดีพอสมควร ทำให้เราหันกลับมาดูแลใส่ใจสุขภาพร่างกายให้มากขึ้น เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคดังกล่าว เพราะเมื่อภูมิคุ้มกันโรคแข็งแรง โอกาสในการติดเชื้อโรคจนนำมาซึ่งโรคสะเก็ดเงินก็ย่อมน้อยลงไปด้วยนั่นเอง

ผู้ป่วยเบาหวานรับมือกับหน้าหนาวอย่างไร?

ผู้ป่วยเบาหวานรับมือกับหน้าหนาวอย่างไร? เมื่ออาการเริ่มเปลี่ยนแปลง หน้าฝนกำลังจะผ่านไปหน้าหนาวเริ่มใกล้เข้ามา เราจะมีวิธีรับมือกับอากาศเย็นอย่างไรบ้างนั้น สำหรับผู้เป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังหรือกลุ่มโรคอื่นๆจะมีวิธีดูแลตัวเองกันอย่างไรมาอ่านไปพร้อมๆกันเลยค่ะ เมื่อสภาพอากาศเริ่มเย็นลงแนะ 3 โรคควรระวังอาการกำเริบ ผู้ป่วยเบาหวาน – ความดัน – หัวใจ ระวังช่วงหน้าหนาว เพิ่มความเสี่ยงอาการกำเริบ สบส. ชี้ อากาศเย็นลง 1 องศา เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจเฉียบพลันถึง 2%

เลือดจระเข้ช่วยบำรุงผู้มีบุตรยาก

เลือดจระเข้ช่วยบำรุงผู้มีบุตรยาก ผู้ที่มีบุตรยาก หรือ ภาวะมีบุตรยาก นั้นเป็นปัญหาที่พบในคู่สมรสที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันฉันท์สามีภรรยาเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งปีขึ้นไปแล้ว ยังไม่สามารถตั้งครรภ์เองได้ และในปัจจุบันปัญหาเรื่องมีบุตรยากนั้นพบได้มากขึ้นเรื่อยๆทุกกลุ่มอายุ อุบัติการของภาวะมีบุตรยากนั้นโดยเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 15 ของคู่สมรส ที่ไม่สามารถมีบุตรเองได้เมื่ออยู่ด้วยกันครบหนึ่งปี สาเหตุที่เราพบว่าอุบัติการสูงขึ้นเรื่อยๆ เกิดจากสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป

เลือดจระเข้คืออะไร

เลือดจระเข้         ทุกคนเคยสังเกตไหมว่า… สัตว์ทุกชนิดเมื่อเกิดบาดแผลขึ้นไม่ว่าบาดแผลนั้นจะเกิดจากสาเหตุใด หากเป็นบาดแผลไม่ลึกหรือกว้างมากเกินไป แผลนั้นจะสมานได้ด้วยตัวเองเหมือนกับกับคนเรา ด้วยการทำงานของเลือดและเกล็ดเลือด แต่หากเกิดแผลลึกมาก เนื่องจากการกัดกันเองของสัตว์ในกลุ่ม หรือถูกกัดจากสัตว์อื่นจนเสียเลือดมาก และเกล็ดเลือดไม่สามารถอุดกั้นจนหยุดการไหลของเลือดได้ สัตว์เหล่านั้นก็จะเสียชีวิตในที่สุด เช่นเดียวกับคนที่ต้องเสียชีวิต เพราะเสียเลือดมากและไปโรงพยาบาลไม่ทันกาล           ซึ่งจะต่างกันตรงที่ เมื่อเรามีวิทยาศาสตตร์การแพทย์ที่เจริญก้าวหน้าขึ้นตามลำดับ เช่น การเย็บแผล การผ่าตัด การใช้ยาฆ่าเชื้อ การถ่ายเลือดให้กัน ฯลฯ เราจึงสามารถมีชีวิตอยู่รอดได้นั่นเอง และเราสังเกตได้ว่าเมื่อจระเข้กัดกันเองจนเกิดแผลขนาดใหญ่จนไม่น่ามีชีวิตรอดได้ แต่ในที่สุดจระเข้จะกลับสามารถมีชีวิตรอดได้ และแผลสมานกันได้เป็นปกติทั้งๆที่จระเข้ที่บาดเจ็บแช่อยู่ในน้ำที่มีจระเข้รวมตัวกันอยู่มากมายก็ตาม ทั้งยังมีเชื้อโรคมากมายจากในน้ำและอากาศซึ่งอาจทำให้ติดเชื้อได้ด้วย แต่พอเวลาผ่านไปไม่ถึง 1 สัปดาห์ แผลเหวอะหวะนั้นกลับสมานกันจนหายดีและไม่ติดเชื้อใดๆเลย เพียงแค่จระเข้นอนพักฟื้นและรักษาเยียวยาบาดแผลตามธรรมชาติด้วยตัวมันเอง          แสดงให้เห็นว่า เลือดจระเข้ต้องมีความพิเศษ ซึ่งมีงานวิจัยพบว่า เลือดจระเข้มี สารต้านจุลชีพ (Anti-microbial peptides) อยู่ในน้ำเลือด ซึ่งน่าจะเป็นโปรตีนคอมพลีเม้นต์ (Complements) กล่าวคือ เป็นโปรตีนสายสั้นๆที่เป็นส่วนหนึ่งของภูมิต้านทานในสัตว์ […]

ทำไมถึงเป็นเลือดจระเข้

สาเหตุที่นำเลือดจระเข้มาสกัด เพราะเห็นว่าเลือดจระเข้เป็นสัตว์ที่แข็งแรง ไม่ค่อยเป็นอะไรง่ายๆ แม้จะอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำที่ไม่ค่อยสะอาด หรือเมื่อต่อสู้กันจนบาดเจ็บ แผลก็ไม่เคยเน่า และแผลกลับหายได้เองอย่างรวดเร็ว จึงสันนิษฐานว่าเลือดจระเข้จะมีสารอาหารบางอย่างที่มีคุณสมบัติพิเศษ ซึ่งในหลายประเทศ ทั้ง ญี่ปุ่น จีน หรือ แม้แต่อเมริกายังให้ความสนใจ ซึ่งรองศาสดาจารย์ดอกเตอร์วิน ได้เริ่มทำการวิจัยมาตั้งแต่ปี 2542 เลือดจระเข้ที่นำมาสกัด จะใช้วิธีการเจาะเลือดโดยเข็มแสตนเลสที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะ นำมาเก็บเลือดจระเข้ที่มีอายุอย่างน้อย 3 ปีและเป็นจระเข้ที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง เมื่อเจาะเลือดแล้วจะเว้นระยะเวลาประมาณ 3 เดือนจึงจะนำจระเข้มาเจาะเลือดได้อีก (เหมือนคนที่บริจาคเลือด) เลือดจระเข้ 10.5 กก จะนำมาทำเลือดจระเข้แคปซูลได้ประมาณ 3,500-4,000 เม็ด (ขนาด 250 มิลลิกรัม)ก่อนเจาะเลือดจระเข้ จะต้องทำความสะอาดบริเวณที่เจาะด้วย 70% แอลกอฮอล์ เก็บเลือดโดยใช้อุปกรณ์ และภาชนะที่ผ่านการฆ่าเชื้อ และเก็บเลือดในภาชนะปิด เพื่อให้ได้เลือดที่สะอาดปราศจากการปนเปื้อน จากนั้นนำเลือดที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว มาผ่านกระบวนการระเหิดแห้ง (Freeze Drying) เพื่อรักษาคุณภาพองค์ประกอบโปรตีนที่สำคัญในเลือดจระเข้นำเลือดจระเข้ระเหิดแห้งที่ได้นำมาบดให้ละเอียด โดยภาชนะที่ผ่านการฆ่าเชื้อ แล้วบรรจุในแคปซูลภายใต้ตู้ควบคุมการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งปัจจุบันได้มีการใช้แคปซูลที่ผลิตจากธัญพืช นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น มาใช้ในการบรรจุเลือดจระเข้ ซึ่งจะเป็นแคปซูลที่ไม่มีสารตกค้าง หรือสะสมในร่างกายเริ่มทำตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเลือดจระเข้แคปซูล ผลตอบรับถือว่าดีเกินคาด เพราะมีผู้ป่วยหลายรายทานแล้วมีสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ตลาดเติบโตอย่างต่อเนื่อง […]

ประวัติอาจารย์จินดาวรรณ สิรันทวิเนติ

รองศาสตราจารย์จินดาวรรณ สิรันทวิเนติภาควิชาสัตววิทยาคณะวิทยาศาสตร์วิทยาเขตบางเขนEducationPh. D. (Agricutural Science), University of Tsukuba, JAPAN, 2545วท.ม. (พยาธิวิทยาคลินิก), คณะแพทยศาสตร์ รพ. รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล, ไทย, 2534วท.บ. (เทคนิคการแพทย์), คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, ไทย, 2531 โครงการวิจัย 5 ปีที่ผ่านมา หน้าที่ในโครงการ 5 ปีที่ผ่านมา

1 2 3